เชื่อว่าหลายคนคงมีความสงสัยไม่น้อยเวลาต้องการส่งของกับบริษัทขนส่งส่วนใหญ่มีการคิดค่าส่งยังไง หรือมีแบบไหนบ้าง เราจึงไปเสาะหารูปแบบของการจัดเก็บค่าส่งมาให้คุณได้ทำความเข้าใจ พร้อมแนะนำเทคนิคลดค่าขนส่ง
ค่าส่งคิดยังไงมีแบบไหนบ้าง
การคิดค่าส่งหลัก ๆ มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 รูปแบบ ได้แก่
1. คิดตามความจริง
โดยทั่วไปแต่ละบริษัทขนส่งจะมีการกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ อย่างชัดเจนว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ พัสดุน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน หรือมีปริมาตรเท่าใดแบบตายตัว ไม่ต้องเสียเวลาคำนวณ แค่ทำการชั่งน้ำหนักพัสดุ จากนั้นนำไปเทียบดูว่าน้ำหนักดังกล่าวต้องจ่ายค่าส่งเท่าไหร่
2. บวกเพิ่มหากซื้อหลายชิ้น
กรณีมีการส่งของจำนวนมากการคิดค่าส่งจะมีการกำหนดตายตัวเช่นเดียวกัน แต่จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท เช่น พัสดุน้ำหนักไม่ถึง 20 กิโลกรัมแรก จ่ายค่าส่งเริ่มต้น 20 บาท ชิ้นต่อไปกิโลกรัมละ 15 บาท หรือพัสดุน้ำหนักเกิน 20 กิโลกรัมแต่ไม่เยอะกว่า 25 กิโลกรัมแรก จ่ายค่าส่งเริ่มต้น 40 บาท กิโลกรัมถัด ๆ ไปจ่ายแค่กิโลกรัมละ 10 บาท เป็นต้น
3. ส่งฟรี
ข้อเสนอนี้มักไม่ได้มีมาบ่อย ๆ แต่มีเมื่อไหร่ถูกใจทุกคนแน่นอน เพราะคุณแทบไม่จำเป็นต้องเสียค่าส่งใด ๆ ให้กับทางบริษัทเลย
4. ค่าส่งเหมา ๆ ราคาเดียว
วิธีคิดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของทางบริษัท โดยหลัก ๆ จะมีการรวมทั้งระยะเวลาการขนส่ง ปริมาตรของสินค้า น้ำหนัก กำไร ส่วนลด และอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ข้อดี คือ จ่ายครั้งเดียวจบไม่มีการบวกเพิ่ม
เทคนิคการลดค่าขนส่ง
อยากส่งของแต่กลัวว่าค่าส่งแพงเกินไป มีเทคนิคช่วยลดค่าส่งช่วยได้ ดังนี้
- ให้ความสำคัญกับการใช้กล่องพัสดุแพ็คสินค้า โดยต้องเป็นกล่องที่มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน สามารถป้องกันความเสียหายของพัสดุที่อยู่ภายในกล่องได้ และควรเลือกให้มีขนาดพอดีกับสิ่งของภายในกล่องจะได้ไม่สิ้นเปลืองวัสดุกันกระแทก หรือวัสดุทำความเย็นมากเกินไปกรณีส่งของแช่เย็นหรือแช่แข็ง
- มองหาส่วนลด อยากลดค่าขนส่งทางลัดที่ดีที่สุด คือ มองหาบริษัทที่มีส่วนลดในการส่งพัสดุให้กับเรา ซึ่งแต่ละที่จะมีการจัดส่วนลดแตกต่างกันไป เช่น ส่งขั้นต่ำ 1,000 กิโลกรัม รับส่วนลดฟรี 10% ส่งขั้นต่ำ 500 กิโลกรัม รับส่วนลดฟรี 5%
- เลือกประเภทยานพาหนะ ระยะเวลาการขนส่งให้สอดคล้องกับพัสดุ เช่น คุณต้องการส่งของแช่เย็นแต่เลือกใช้บริการบริษัทส่งของแช่แข็งที่มีการควบคุมอุณหภูมิระหว่าง -15 – -18 องศา และใช้เวลาการจัดส่งนานสุดถึง 2 วัน อาจมีความเป็นไปได้ว่าคุณจะต้องเสียค่าส่งมากขึ้น ดังนั้นทางที่ดีคุณต้องรู้ว่าพัสดุที่คุณต้องการส่งนั้นควรส่งแบบไหน เช่น แช่เย็น คุณก็ต้องเลือกบริษัทส่งของแช่เย็นที่มีการควบคุมอุณหภูมิ 0 – 8% สามารถจัดส่งถึงปลายทางได้ภายใน 1 – 2 วัน เป็นต้น
และสุดท้ายหากไม่มั่นใจว่าต้องเสียค่าส่งเท่าไหร่ วิธีการที่ง่ายที่สุด คือ ให้สอบถามหรือเช็กราคากับทางบริษัทนั้น ๆ ว่ามีการจัดเก็บมากน้อยแค่ไหน หรือมีเงื่อนไขอะไรให้เข้าร่วมบ้าง